พระราชวังและพิพิธภัณฑ์อันงดงาม
พระนารายณ์ราชนิเวศน์

พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 บนพื้นที่ 41 ไร่ ณ เมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง พระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวัง 8-9 เดือนในช่วงปลายรัชกาลและเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2231ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระนารายณ์ราชนิเวศน์ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2399 และพระราชทานนามว่า พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นที่พระที่นั่งจันทรพิศาลในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2467 เรียกว่า ลพบุรีพิพิธภัณฑสถาน และในปี พ.ศ. 2504 จึงได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ ปัจจุบันได้จัดแสดงศิลปโบราณวัตถุตามอาคารและพระที่นั่งต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนกว่า 1,864 รายการ



พระนารายณ์ราชนิเวศน์

พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีความสำคัญและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมแสดงถึงความรุ่งเรืองสูงสุดสมัยหนึ่งของเมืองลพบุรี ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พื้นที่ภายในพระราชวังแบ่งออกเป็น ๓ เขต คือ เขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานชั้นใน มีพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างดังนี้
๑) เขตพระราชฐานชั้นนอก มีสิ่งก่อสร้าง ๕ หลัง คือ
๑.๑ อ่างเก็บน้ำประปา เป็นที่เก็บน้ำใช้ภายในพระราชวัง เก็บน้ำที่ไหลจากอ่างซับเหล็กตามท่อดินเผามายังพระราชวัง และส่งต่อไปใช้ตามตึกต่างๆ
๑.๒ สิบสองท้องพระคลัง สันนิษฐานว่าเป็นพระคลังเก็บสินค้าหรือสิ่งของเพื่อใช้ในราชการ
๑.๓ ตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง เป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับคณะราชฑูตต่างประเทศ ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงโปรดพระราชทานเลี้ยงแก่คณะราชทูตเชอร์วาเลีย เดอ โชมองต์ จากประเทศฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.๒๒๒๘
๑.๔ ตึกพระเจ้าเหา สันนิษฐานว่าเป็นหอพระประจำพระราชวัง ชื่อพระเจ้าเหา หมายถึง พระพุทธรูปเก่าแก่สำคัญที่ประดิษฐานอยู่ภายในตึกนี้
๑.๕ โรงช้างหลวง เป็นที่อยู่ของช้างพระที่นั่งของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและเจ้านายสำหรับใช้ในราชการเสด็จประพาสป่าล่าสัตว์และที่พักของควาญช้างและผู้ดูแลช้าง
๒) เขตพระราชฐานชั้นกลาง มีสิ่งก่อสร้าง ๒ หลัง คือ
๒.๑ พระที่นั่งจันทรพิศาล เป็นที่ประทับออกว่าราชการแผ่นดินและประชุมองคมนตรี
๒.๒ พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท เป็นที่เสด็จออกต้อนรับคณะราชทูตต่างประเทศ
๓) เขตพระราชฐานชั้นใน มีสิ่งก่อสร้าง ๑ หลัง คือ
๓.๑ พระที่นั่งสุธาสวรรค์ เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในปัจจุบันจะเห็นฐานอาคารขนาดใหญ่ มีเกยสำหรับทรงเสลี่ยงหรือทรงม้า สภาพเดิมถูกบันทึกว่า มุงหลังคาด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง มีกำแพงแก้วล้อมรอบ มีสระน้ำ ๔ สระ มีเขาจำลองและปลูกพันธุ์ไม้
ปัจจุบันพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุภายในพื้นที่ ๓ อาคาร คือ
๑.พระที่นั่งจันทรพิศาล สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เดิมใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับประชุมเสนาบดี หลังจากถูกทิ้งร้างไป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) แห่งกรุงรัตนโกสินทร์โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์พระที่นั่งขึ้น ใช้เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวร แสดงภาพประวัติศาสตร์ และโบราณวัตถุที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
๒.พระที่นั่งพิมานมุงกุฎ เป็นตึก ๓ ชั้น สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ ๔) ใช้เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับพัฒนาการเมืองลพบุรี ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ถึงสมัยปัจจุบัน ดังนี้
ชั้นที่ ๑ จัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่บอกเล่าเรื่องราวเมืองลพบุรีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ (ราว ๓,๕๐๐ ปี ที่แล้ว) ต่อเนื่องมาจนถึงวัฒนธรรมทวารวดี
ชั้นที่ ๒ จัดแสดงนิทรรศการลำดับพัฒนาการเมืองลพบุรีเป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากชั้นที่ ๑ ต่อจากช่วงวัฒนธรรมทวารวดี เข้าสู่ช่วงความเจริญของวัฒนธรรมอิทธิพลศิลปะเขมรในประเทศไทย แสดงศิลปวัตถุและโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น ทับหลัง พระพุทธรูปนาคปรก และเทวรูปต่างๆ ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยอยุธยา จัดแสดงงานศิลปกรรมและงานช่างในสมัยอยุธยา เรื่อยมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
ชั้น ๓ เดิมเป็นห้องบรรทมของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ ๔) จัดแสดงเหมือนครั้งที่ยังประทับอยู่ มีพระแท่นบรรทม ฉลองพระองค์ พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระสาทิสลักษณ์ เหรียญเงินต่างๆ เครื่องแก้ว เครื่องประกอบโต๊ะพระกระยาหารที่มีตราประจำพระองค์(มงกุฎ) เป็นต้น
๓.หมู่ตึกพระประเทียบ เดิมเป็นที่ประทับและที่พักของเจ้านายฝ่ายในและข้าราชบริพารฝ่ายใน ใช้เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรและใช้เป็นพื้นที่เกี่ยวข้องกับงานนิพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันจัดนิทรรศการวิถีชีวิตภาคกลาง และนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทยเกี่ยวกับวิถีชีวิตพื้นบ้านลพบุรีใช้ชื่อว่า “วิถี ผู้คน ตัวตน คนลพบุรี”
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
- https://www.paiduaykan.com/travel/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B9%8C
- http://www.museumthailand.com/th/museum/Somdet-Phra-Narai-Nationa
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น